พอดีจากที่เราได้อ่านบทความของ Adam Riley ว่าด้วยเรื่อง การถ่ายสตรีทช่วยให้คุณถ่ายงานแต่งงานได้ดีขึ้น ( How Shooting Street Improves Your Wedding Photos ) ซึ่งเนื้อหาของ Adam น่าสนใจมาก จริงๆแล้วมันคือหลักการฝึกการถ่ายสตรีทนั่นแหล่ะ แต่เขาเอามาแนะนำให้กับช่างภาพถ่ายภาพงานแต่งงาน ( ที่บ้านเมืองเราหาสไตล์ที่แตกต่างไม่ค่อยจะได้เท่าไหร่นัก ) ด้วยความที่ Adam เป็นช่างภาพงานแต่งงานมืออาชีพ ทำงานอยู่ที่ Cheshire ประเทศอังกฤษ เลยทำให้บทความนี้ มีหลักมีการที่มีประโยชน์ดีมาก
เราก็เลยขออนุญาต Adam แปลบทความนี้เป็นภาษาไทย เพื่อให้สตรีทชาวไทยได้ลองศึกษาบทความนี้ ซึ่งเขายินดีมาก และหวังว่าสตรีทชาวไทยจะได้ประโยชน์จากบทความของเขาเช่นกัน
ติดตามงานของ Adam Riley ได้ที่ Instagram ของเขาได้ที่นี่
พัฒนาการถ่ายภาพงานแต่งงานของคุณ ด้วยการฝึกถ่ายภาพสตรีท
จากบทความ How Shooting Street Improves Your Wedding Photos ของ Adam Riley
แปล/เรียบเรียง อาทิตย์ เลิศรักษ์มงคล
การถ่ายภาพแต่งงานนี่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่เราจะต้องโฟกัสไปที่การจับภาพท่าทางให้คู่บ่าวสาวดูดี แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือแรงบันดาลในการถ่ายภาพของตัวเราเองนั่นแหล่ะ ช่างภาพงานแต่งงานต้องใช้เวลาฝึกฝนฝีมือหลายต่อหลายปี และสร้างผลงานให้น่าตื่นตาตื่นใจพอที่จะให้ลูกค้าอยากได้งานในแบบของเรา
วิธีการที่จะพัฒนาตัวเองของช่างภาพ ส่วนใหญ่แล้วก็จะนึกถึงการเวิร์คชอป มีช่างภาพมากมายพร้อมจะจ่ายเงินให้กับการเวิร์คชอปเพื่อพัฒนาตัวเอง
ผมเองก็รู้จักช่างภาพหลายคนที่จัดเวิร์คชอปดีๆ และผมเองก็เคยไปลงเวิร์คชอปอยู่บ้าง ซึ่งก็ได้เรียนรู้หลายๆเรื่อง ตั้งแต่การทำการตลาด , การทำ SEO , วิธีถ่ายภาพในแต่ละเทคนิคของพวกเขา , ปรับแต่งภาพยังไง , ใช้กล้องอะไรถ่าย , งานอัลบั้มภาพถ่ายที่เขาขายกัน ซึ่งผมแฮปปี้มาก ได้เพื่อนดีๆเพิ่มมา แถมธุรกิจของผมก็ดูไปได้ดีขึ้นด้วย แต่.. ผมกลับไม่เชื่อว่าเวิร์คชอปเหล่านี้จะสามารถสอนให้คุณเป็นช่างภาพที่ดีขึ้นได้จริง
ผมรู้มาก่อนหน้านี้แล้วว่า วิธีไหนที่จะทำให้งานของผมดูดีขึ้น Henri Cartier-Bresson ปรมาจารย์ช่างภาพสตรีท เคยกล่าวเอาไว้ว่า “ภาพที่คุณถ่าย 10,000 ภาพแรกนั่นน่ะ คือภาพที่แย่ที่สุดของคุณ” นั่นคือความหมายกลายๆของความจริงที่ว่า การฝึกฝนเท่านั้นที่จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ที่ว่า 10,000 รูปแรกของคุณ ก็อาจจะได้ภาพดีบ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วน่ะ มันคงได้ภาพที่ดูไม่ดีพอเท่าไหร่ที่จะโชว์ให้ใครๆดู แน่นอนว่าการที่คุณยังรักษาการฝึกฝนแบบนี้ไปเรื่อยๆ มาตรฐานงานของคุณก็จะดีขึ้นๆ
ผมถ่ายภาพแต่งงานในแนวสารคดี ( Documentary Style ) งานส่วนใหญ่ 98% จะไม่มีการโพสท่า ไม่มีการยืนให้ถ่ายภาพ (จะมีบ้างสัก 2% ที่ถ่ายเป็นกลุ่มไม่กี่คน หรือถ่าย Portrait ) ผมจะไม่มีการจัดวางพรอพต่างๆ หรือปรับม่านหน่อยให้แสงมากขึ้น หรือบอกให้คนช่วยหลบหน่อย เราอาจจะมองกันว่ามีงานแต่งงานมากมายเลยให้เราได้ถ่าย แต่สำหรับผม ผมมองมันคือแรงบันดาลใจและการฝึกฝนที่จะถ่ายภาพแนวสตรีท
ผมชอบงานแนวสตรีท (Street Photography) และคิดว่ามันเป็นแนวการถ่ายภาพที่ยากที่สุดในการถ่ายภาพทั้งหมด องค์ประกอบบนท้องถนนกับในงานแต่งงานนั้น ผมมองว่ามันคล้ายกัน คุณต้องมองหาจังหวะที่คาดเดาไม่ได้ มันก็เหมือนกับที่คุณมองโลกใบนี้แล้วจับภาพนั้นไว้ ผมคิดว่าการถ่ายภาพสตรีท คือวิธีการฝึกฝนที่ดีที่สุดที่จะทำให้คุณเป็นช่างภาพงานแต่งงานที่ดีขึ้นได้
ปรับปรุงการจัดวางองค์ประกอบ
การถ่ายภาพงานแต่งงานนั้น ไม่ใช่แค่การเอาแต่ถ่ายสิ่งที่เกิดขึ้นในงานอย่างเดียว แต่คุณต้องพยายามที่จะจับภาพอย่างมีศิลปะด้วย ผมเชื่อว่าการจัดองค์ประกอบภาพของการถ่ายแนวสตรีท (และภาพงานแต่งงาน) ไม่ได้เกินไปกว่ากฏของการถ่ายภาพทั้งหลาย แต่คุณจะต้องรู้ว่าเราจะใช้มันอย่างไร และเมื่อไหร่ที่จะช่วยให้ภาพดูดีขึ้น กฏง่ายๆอย่างการวางเฟรม วางตำแหน่ง Subject ให้อยู่ใน 3 ส่วน และการจัดวาง Layer หน้า-หลัง พวกนี้เป็นการฝึกในงานสตรีทที่เอามาใช้ในงานถ่ายภาพแต่งงานได้ทั้งนั้น


Rule of thirds : การวาง Subject อยู่ในตำแหน่งที่ 3 ของภาพ สามารถทำให้ภาพดูไม่แข็งเกินไป


เฟรมที่ซับซ้อน / การจัดวาง Layer : ผมมักจะพยายามทำสิ่งนี้ในการถ่ายภาพแต่งงาน เราต้องแน่ใจว่าไม่มีหัวใครทับซ้อนกัน ซึ่งมันเป็นเรื่องท้าทายมากในงานแต่งงานที่คนเยอะแยะไปหมด รวมไปถึงการจัดวาง Layer ในภาพจะช่วยให้ภาพมีระดับลึกตื้น ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณควรจะเรียนรู้จาก Alex Webb (สุดยอดช่างภาพสตรีทที่โดดเด่นเรื่องการจัดวาง Layer : ผู้แปล)


ถ่ายภาพ Portrait แบบจับภาพ Candid ตามธรรมชาติ
ไม่ใช่แค่การถ่าย Portrait แต่การไม่โพสท่านั้น มันเล่าเรื่องได้ดี ไม่ว่าจะเป็นสถานที่หรือคนที่เราถ่ายก็ตาม ภาพสตรีท อย่างเช่นสองภาพด้านล่างนี้ ภาพหนึ่งคือผมถ่ายภรรยาในระหว่างเดินเล่นในปารีส ส่วนอีกภาพคือภาพในงานแต่งงานที่ Eastnor Castle


เตรียมพร้อม
คุณควรจะต้องรู้จักกล้องของคุณให้ดี และมันควรจะต้องพร้อมเสมอที่จะถ่ายภาพในช่วงเสี้ยววินาที เราจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นในงานแต่งงาน ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องเดียวกันกับการถ่ายภาพสตรีท! กล้องเปิดไว้ตลอด รูรับแสงปรับไว้อย่างถูกต้อง โฟกัสพร้อม ภาพสตรีทด้านล่างนี้ ผมถ่ายระหว่างที่กำลังทานข้าวเย็นอยู่ที่ถนนระหว่างไปเที่ยวที่อินตันบูลเมื่อปี 2014 ผมเห็นชายคนนี้สวมเสื้อโค้ทหลายชั้นมากกำลังเดินมา กล้องพร้อม ผมก็รีบวางเฟรมแล้วกดระหว่างที่ทานข้าวนั่นแหล่ะ


สังเกตแสง
การสังเกตแสงเป็นสิ่งสำคัญอีกปัจจัยหนึ่งของการถ่ายภาพ และผมก็พบว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝน การถ่ายภาพสตรีทช่วยให้ผมฝึกฝนเรื่องนี้ได้ดีจนถึงตอนนี้ ผมสังเกตแสงเพื่อจะถ่ายอย่างอัตโนมัติเลยโดยไม่ต้องคิด ในงานแต่งงานมันเป็นเรื่องง่ายที่ถ่ายโดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องแสงนัก แต่ถ้าคุณลองพยายามใช้แสงธรรมชาติ มันเป็นจะการท้าทายอย่างหนึ่ง


คอยสังเกต
สิ่งต่างๆรอบตัวเรามันเปลี่ยนได้ตลอดเวลา โดยปกติแล้วเราจะปรับตัวเข้ากับอะไรรอบตัวได้ ทั้งโฆษณาต่างๆหรือเสียงดังตามท้องถนน รอบไปถึงในงานแต่งงานด้วย แต่สิ่งต่างๆที่มันอยู่รอบตัวเรานี่แหล่ะ เราสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้เพื่อทำให้ภาพของเราดูพิเศษขึ้น การทำให้เกิดเป็นเรื่องราว หรือใส่อารมณ์ขันลงไป คอยจับตาดูพื้นหลังภาพคุณไว้ ถ้าคุณเห็นอะไรที่น่าสนใจ ลองรอคอย มองหาองค์ประกอบอื่นๆที่จะเข้ามาในเฟรมคุณเพิ่มเข้ามาประกอบกับพื้นหลังได้อีก


จับตาดูสิ่งผิดปกติ
เปิดตาเอาไว้ และคอยสังเกต นี่เป็นสิ่งที่ผมชอบทำมากๆเวลาเดินถ่ายตามท้องถนน ผมเดินไปเรื่อยๆ คอยดูว่าจะเกิดอะไรที่มันแปลกๆหรือตลกๆบ้าง บางอย่างในชีวิตสำหรับหลายๆคนก็อาจจะเลยผ่านไป ฝึกการมองหาอะไรแบบนี้ จะช่วยให้คุณมองหาอะไรดีๆได้ในงานแต่งงานได้ง่ายขึ้น
อดทนไว้
การอดทนเป็นสิ่งสำคัญที่จะได้ภาพดีๆมาแล้วมากมาย ลองประเมินภาพที่อยู่ในหัวของคุณก่อนที่มันจะเกิดขึ้นจริง หรือลองจับตาดูสถานการณ์ที่น่าสนใจ แล้วรอคอยไปเรื่อยๆว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นมั๊ย หรือจะมีใครมาทำให้เหตุการณ์ตรงนั้นพิเศษขึ้นไปอีก ผมมักยืนอยู่ในที่ๆหนึ่งนับชั่วโมงเพื่อรอให้องค์ประกอบหลายๆอย่างในภาพสตรีทมันมาอยู่รวมกันได้เฟรมได้ (ซึ่งบ่อยๆที่มันก็ไม่เกิดขึ้นหรอก) แต่ถ้าเกิดมันเกิดขึ้น มันจะเป็นความรู้สึกที่เจ๋งมาก เราอาจจะไม่ได้มีช่วงเวลาพิเศษๆในงานแต่งงานเสมอไป แต่ลองจับตาดูดีๆ ลองศึกษาสถานการณ์ต่างๆแล้วรอคอยให้มีองค์ประกอบดีๆเข้ามา


หามุมที่แตกต่าง
มันเป็นเรื่องง่ายมากที่เราจะยืนถ่ายภาพในงานแต่งไปตลอดทั้งวัน แต่การที่เราลองมองหาไปรอบๆ ขึ้นไปถ่ายจากด้านบน ถ่ายภาพจากพื้นล่างขึ้นไป หรือยกกล้องขึ้นเหนือหัวแล้วกดลง ก็เป็นวิธีที่จะหามุมมองที่แตกต่างออกไปเพื่อจะเล่าเรื่อง


เงาสะท้อน
เงาสะท้อนอาจจะเป็นเรื่องยากไปหน่อยสำหรับช่างภาพงานแต่งงาน แต่ผมคิดว่ามันก็เป็นที่ที่เหมาะกับการถ่ายภาพเงาสะท้อนที่ดี มันช่วยให้เพิ่มองค์ประกอบเจ๋งๆลงไปในภาพได้ ลองมองหาวัตถุที่ช่วยสะท้อนภาพในงาน (ที่ไม่ใช่แค่เจ้าสาวมองตัวเองในกระจกอะไรแบบนั้น) ที่จะช่วยให้เกิดภาพที่ดูไม่ออกว่าเป็นงานแต่งงาน


การถ่ายภาพสตรีทเป็นเรื่องของความชอบส่วนตัวมากๆ มันเป็นหนึ่งในการถ่ายภาพที่มีทั้งผู้คน และเราก็ถ่ายมันด้วยความชอบของเราเอง โดยไม่มีใครมาบรีฟ หรือขอให้ถ่ายให้ เรารอจังหวะดีๆให้ทุกอย่างอยู่ในเฟรมที่เราต้องการแล้วก็กดถ่ายมันไว้
ลองออกไปสนุกกับการถ่ายภาพสตรีท และ อย่าไปสนใจกับการที่ว่า ใครจะกด “Like” ให้ภาพของเราหรือไม่ ค่อยๆพัฒนาฝีมือคุณไปเรื่อยๆ มันจะทำให้คุณเป็นช่างภาพงานแต่งงานที่มีฝีมือมากขึ้น
สยาม.มนุษย์.สตรีท
2 thoughts on “พัฒนาการถ่ายภาพงานแต่งงานของคุณ ด้วยการฝึกถ่ายภาพสตรีท”