- บทความ โดย Lisbeth ใน EyeEm Blog
- แปล โดย จุฑารัตน์ ภิญโญดุลยเจต ( ปูเป้ )
Saul Leiter เป็นช่างภาพที่มีสไตล์ผสมผสานระหว่างแฟชั่น สตรีท และศิลปะที่แสดงอารมณ์แนวนามธรรม (Abstract expressionism) ด้วยความที่เขาเคยเป็นจิตรกรมาก่อน ภาพถ่ายของเขาจึงเต็มไปด้วยสีสันและรูปทรงต่างๆ เขาใช้กล้องเป็นอุปกรณ์ในการถ่ายทอดเรื่องราวให้ออกมาตามมุมมองของเขา
เวลาที่คุณมองภาพของ Saul Leiter ภาพเหล่านั้นมักดูต่างจากสิ่งที่มันเป็น แต่นั่นคือความสนุกในการชมภาพของเขา ภาพที่ดีมักชวนให้เราต้องย้อนกลับไปดูมันอีกรอบ ส่วนภาพของ Saul Leiter น่ะหรอ? เราอาจจะต้องดูมันสักสามรอบเลยล่ะ เราจะมาศึกษาแนวคิดและวิธีการถ่ายภาพของศิลปินท่านนี้กัน
(ถ้าใครที่อยู่ลอนดอนตอนนี้ ถือว่าคุณโชคดีเลย เพราะกำลังมีงานของ Saul Leiter จัดที่ The Photographers’ Gallery ตอนนี้จนถึง 3 เมษา 2016)
นี่คือบทเรียน 10 ข้อที่เราได้รับ จาก Saul Leiter

1.ทุกอย่างล้วนมีค่าพอที่จะอยู่ในภาพ
Saul Leiter มักถูกอ้างเสมอจากคำพูดของเขาที่ว่า “ทุกสิ่งเหมาะสมที่จะถูกถ่ายภาพได้หมด ทุกอย่างสามารถเป็นภาพถ่ายได้” เมื่อเขาเดินถ่ายภาพในนิวยอร์ค เขาถ่ายภาพอย่างมีอิสระและทดลองอะไรใหม่ๆด้วยการวางองค์ประกอบภาพสีสันและความชัดลึก/ชัดตื้น (depth of field) ซึ่งการทดลองนี่เองที่ทำให้เขามีสไตล์ที่ชัดเจนและทำให้เป็นที่รู้จักในนิวยอร์คด้านการถ่ายภาพสตรีท
2.ถ่ายผ่านบางอย่าง
ปกติแล้วช่างภาพมักจะวางเฟรมโดยที่ไม่ให้อะไรมาบังตัวแบบหลักแต่ Leiter กลับทำตรงกันข้าม เขามักถ่ายภาพโดยมีสิ่งของบางอย่างบังหรือกั้นไว้อยู่เสมอ วิธีนี้เองทำให้เขาสามารถจัดวางตัวแบบและสร้างเรื่องราวในภาพได้อย่างสร้างสรรค์ เมื่อคุณออกไปถ่ายภาพ ลองถ่ายผ่านอะไรบางอย่างดู อาจจะเป็นช่องตามรั้วรูตามใบไม้หรืออาจจะถืออะไรขึ้นมาบังหน้าเลนส์คุณเลยก็ได้!

3.ชัดบ้างเบลอบ้าง
อีกหนึ่งเทคนิคของ Leiter คือการใช้ระยะชัดลึกและชัดตื้น (depth of field) เพื่อสร้างจุดสนใจในภาพ วิธีการนี้จะทำให้ตัวแบบดูเด่นออกมา ในขณะเดียวกันก็มีความเป็นศิลปะแนว Abstract ได้อีกด้วย นี่เป็นเทคนิคที่แสดงความเป็นศิลปะแนว Abstract expressionism ของ Leiter

4.หลงใหลในสี
Leiter ได้ชื่อว่าเป็นช่างภาพที่ถ่ายภาพสี ในยุคแรกๆสมัยที่เขายังเป็นช่างภาพแฟชั่นในช่วงปี 1960s เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ถ่ายภาพแฟชั่นด้วยภาพสี (แม้กระทั่งในปัจจุบันนี้ภาพสตรีทขาว-ดำก็ยังเป็นที่นิยมเสมอ) ความสนใจในสีสันของเขาน่าจะมาจากภูมิหลังที่เขาเคยเป็นจิตรกร และที่เขาถ่ายภาพสีคงเป็นเพราะเขาไม่ชอบทำตามคนส่วนใหญ่ด้วย
เกร็ดเล็กๆจาก Leiter – ให้ลองหัดถ่ายคู่สีที่ไม่จัดจ้านมากนัก
5.สร้างความลึกลับ
Leiter มีความเชี่ยวชาญในการถ่ายภาพความปกติในชีวิตประจำวันให้กลายเป็นภาพ abstract ไม่ว่าจะเป็นผู้คนหรือสิ่งของที่เขาเห็นตามท้องถนนในนิวยอร์ค เขาสามารถเปลี่ยนสิ่งเหล่านั้นให้กลายเป็นรูปทรงสีสันหรือรูปร่างที่เข้ากันกับสภาพแวดล้อมตรงนั้น โดยใช้เทคนิคพื้นฐานอย่างการใช้ระยะชัดตื้นในการวางเฟรม
เกร็ดเล็กๆจาก Leiter – ลองถ่ายภาพแบบไม่ให้เห็นหน้าเต็มๆหรือถ่ายผ่านอะไรบางอย่าง (ตามข้อ2) หรือลองวางเฟรมแบบตัดภาพดู (crop) อาจสร้างความลึกลับที่น่าสนใจได้

6.ใช้เลนส์ Tele ก็ถ่ายได้
Saul Leiter มักใช้เลนส์เทเลในการถ่ายภาพ ซึ่งการใช้เลนส์เทเลจะดึงให้สิ่งที่อยู่ไกลๆดูเหมือนอยู่ใกล้มากขึ้น ป้ายตามถนนที่อยู่ห่างๆจะดูใกล้กับคนที่เดินข้ามถนนขึ้นมาได้ วัตถุที่อยู่ใกล้และไกลจะถูกดึงเข้ามาจนดูเหมือนอยู่ในฉากเดียวกัน วิธีการนี้สร้างความน่าสนใจในภาพของเขาเหมือนกับงานศิลปะภาพตัดแปะ (collage art)

7.ถ่ายแนวตั้ง
Leiter ลองถ่ายสตรีทแบบนอกกรอบด้วยการวางเฟรมแนวตั้งวิธีนี้จะทำให้เรามีมุมมองใหม่ๆ
และหลายครั้งมันก็ได้ผลทีเดียว!
8.ลองครอปภาพดู
เฉกเช่นช่างภาพทุกคน เรามักจะเก็บรายละเอียดทุกอย่างให้ครบถ้วนในภาพ เราพยายามให้รายละเอียดสำคัญๆทุกอย่างอยู่ในภาพให้หมด ทีนี้ลองคิดนอกกรอบดูบ้าง แล้วจะเห็นสิ่งที่ Leiter ทำในงานของเขาอย่างเฉียบคม การครอปเอาสิ่งที่ไม่ต้องการออกไป หรือตั้งใจเลือกส่วนใดส่วนหนึ่งของซีนนั้นๆออกมา สิ่งที่เกิดขึ้นคือเราจะสามารถเล่าเรื่องได้แตกต่างออกไปจากเดิม สร้างเรื่องใหม่ๆขึ้นมาได้ การครอปภาพทำให้เกิดการตีความหมายใหม่ให้แตกต่างออกไปจากเรื่องราวในชีวิตจริง

9.เดี๋ยวภาพก็มาเอง
Leiter เคยกล่าวไว้ว่าเขาไม่เคยออกไปตามหาภาพ เพราะเดี๋ยวภาพมันก็มาของมันเอง เมื่อไหร่ก็ตามที่อยู่บนท้องถนนจงเป็นคนช่างสังเกตและมองสิ่งรอบข้างเสมอ (กฎเหล็กนี้ก็เป็นสิ่งที่ Henri Cartier-Bresson ได้กล่าวไว้เช่นกัน )
10.ทำในสิ่งที่รักก็พอ
Saul Leiter ทำในสิ่งที่เขารักและเชื่อมั่นที่จะทำสิ่งนั้น แม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นที่ถูกใจของคนหมู่มาก เขาพิสูจน์ความชอบของเขาในงานภาพถ่ายแฟชั่นที่ฉีกกฎเดิมๆของ Harper’s Bazaar และพิสูจน์มันอีกครั้งเมื่อเขาเบนจากสายแฟชั่นมาเป็นสายสตรีท สุดท้ายแล้ว เอกลักษณ์ที่ชัดเจนของเขานั่นเองที่สร้างชื่อให้เขาในงานถ่ายภาพ
