จากบทความ Tips for Long-term Photographic Projects
แปล โดย อาทิตย์ เลิศรักษ์มงคล (Sun)
โปรเจคภาพถ่ายสารคดีอาจจะต้องใช้เวลาในการพัฒนางานเป็นเวลาหลายๆวันหรือหลายๆปี และใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่องยาวนาน การที่ต้องเข้าถึงรายละเอียดเชิงลึก เรื่องราวที่ปรากฏอยู่ต่างๆ ก็ต้องใช้ความรับผิดชอบ , การวางแผน และกลยุทธ์ ก็ต้องลึกกว่าโปรเจคเล็กๆที่ใช้เวลาน้อยกว่า
ในขั้นตอนที่จะช่วยให้ช่างภาพรู้ถึงผลตอบรับ และวิธีการฝึกฝนที่เชื่อมโยงกับโปรเจคยาวๆ Matt Black ได้เคยพูดไว้ในงาน Magnum Professional Practice Workshop ที่ได้ร่วมกับผู้ชำนาญในวงการอีกหลายคนที่ซานฟรานฯ
เขาเป็นผู้ที่สร้างงานภาพสารคดีที่ประสบความสำเร็จคนนึง เขาได้บอกเอาไว้ว่า หน้าที่ของช่างภาพคือเล่าเรื่องราวที่สำคัญนั้น “ในฐานะช่างภาพ คุณต้องปฏิญาณตนที่จะเผยแพร่งานของคุณและเข้าถึงผู้คนได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”
มาถึงตรงนี้..เราจะนำเสนอ 5 กลเม็ดที่เรียนรู้จากเหตุการณ์ต่างๆที่จะช่วยให้ช่างภาพไม่ว่าที่ไหนก็ตามที่กำลังสร้างโปรเจคยาวๆ ได้เห็นภาพงานของ Matt Black และช่างภาพอีกหลายคนที่ได้เข้าร่วม Workshop นั้นด้วย


มีคำอธิบายเรื่องราวของโปรเจคที่จะทำ
โปรเจคนั้นสามารถเป็นเรื่องอะไรก็ได้ทั้งนั้น แต่เหตุผลของการทำโปรเจคนั้นต้องชัดเจนและคุณก็จะต้องแจกแจงให้ชัดว่า ‘ทำไม’ ถึงอยากจะเล่าเรื่องนี้ และ ‘ทำไม’ เรื่องนี้ถึงอยากจะเล่าเรื่องนี้ในตอนนี้ Judy Walgren ซึ่งเป็น บรรณาธิการบริหารของ Media start-up ViewFind ได้ทำพรีเซนต์อธิบายให้ฟังไว้ในเวิร์คชอปว่า
“ไม่ว่านักเล่าเรื่องคนไหนก็ตาม ควรจะต้องคิดว่าทำไมถึงอยากจะพูดถึงเรื่องนี้ หัวข้อนี้ และควรจะต้องคิดถึงว่าเป็นเรื่องประเภทไหน? ทิศทางของเรื่องเป็นอย่างไร? ผลพวงทางวัฒนธรรมและประโยชน์จากเรื่องนี้ที่โลกได้รับรู้เป็นอย่างไร? มากน้อยแค่ไหน? ด้วยประการทั้งปวงนี้ ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับช่างภาพที่จะทำให้งานนี้มันมีประสิทธิผลและตรงตามสิ่งที่คิดเอาไว้ การกำหนดโปรเจคนั้น รวมไปถึง ‘ทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญ’ ทำไมมันควรจะต้องถูกเล่าออกไป การเล่าถึงเป้าหมาย คือส่วนที่จำเป็นของการพัฒนาโปรเจคและทำให้ช่างภาพสามารถหาองค์กรสนับสนุนที่แข็งแรงเพื่อช่วยให้ผลิตงานได้”

การตั้งคำถาม
Matt Black ได้ให้ความรู้จากงานโปรเจคที่เขาทำว่า โปรเจคเหล่านั้นมันเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเขา ใกล้ถิ่นฐานบ้านเกิดเขา อย่างเรื่อง Dry Land และ The Black Okies ซึ่งเขาถ่ายที่ California’s Central Valley และโปรเจคที่ยาวนานอย่าง The Geography of Poverty ซึ่งว่าด้วยเรื่องพื้นที่ขาดแหล่งอาหารในอเมริกา วิธีการทำงานหลักของ Matt คือการถามคำถามเพื่อขจัดปัญหาความยุ่งยากในเรื่องราวนั้น เพื่อให้เข้าถึงผู้คนที่เกี่ยวข้องนั้น และเข้าใจประเด็นปัญญาที่มีผลต่อพวกเขา การต่อสู้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เขาถามคำถาม “มันเป็นแบบนี้ได้อย่างไร?” และมันช่วยให้เขาสร้างมุมมองเฉพาะตัวต่อประเด็นเหล่านี้


เป็นคนจัดการโปรเจคที่ดี
เมื่ออยู่ระหว่างการทำโปรเจคยาวๆ ช่างภาพไม่ควรประเมินอะไรเกินตัวทั้งการได้ข้อมูลสำคัญและโปรดักค์ชั่นที่สมบูรณ์แบบ Shannon Simon เป็นผู้บริหารคอนเทนต์และผู้บริหาร Magnum ฝั่งอเมริกา อธิบายถึงว่า โปรดักค์ชั่นดีๆนั้นต้องใช้เงินทุนและข้อมูลที่ทันสมัย
“กรอบในการทำงานที่นอกเหนือไปจากที่รู้ว่า คุณกำลังทำอะไรอยู่นั้น เป็นสิ่งที่มีค่ามาก ถ้าคุณคิดถึงเรื่องความคิดสร้างสรรค์ให้มาก และไม่ติดอยู่ในกรอบของตรรกะ เช่นว่าต้องให้เพื่อน หรือคนที่ร่วมงานอยู่คอยช่วยเหลือคุณ จริงๆแล้วการพยายามอย่างไม่ลดละ คือสิ่งที่จะพาคุณไปให้ถูกที่ถูกเวลา ได้ทำในสิ่งที่คุณควรจะทำ และจำไว้ว่า ควรรู้สึกยินดีกับโอกาสที่คุณได้รับ อย่าคาดหวังในสิ่งที่คนอื่นๆจะช่วยเหลือคุณ”

การร่วมมือ
การร่วมมือกันใช้ความคิดสร้างสรรค์ช่วยขยายขอบเขตและการเข้าถึงของโปรเจค Jacqueline Bates ผู้บริหารแผนกภาพถ่าย และ Leo Jun ผู้บริหารแผนกสร้างสรรค์จาก The California Sunday Magazine ได้พูดไว้ที่งาน the Professional Practice workshop อธิบายเอาไว้ในฐานะที่เป็นคนที่ได้เข้ามาทำงานกำหนดทิศทางของแมกกาซีน เขาได้ควบรวมการถ่ายภาพและการออกแบบของพวกเขาเข้าด้วยกัน ซึ่งให้ผลในการเล่าเรื่องที่แตกต่างออกไปมากกว่าต่างคนต่างทำ
ความสำเร็จของการร่วมมือกันเผยแพร่งานโปรเจคระยะยาวอย่างการรวมกันของ Matt Black กับ Amy Pereira ผู้บริหารแผนกภาพถ่ายของ MSNBC ซึ่งเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือ Matt ในการทำงานโปรเจค The Geography of Poverty และยังช่วยคิดค้นนวัตกรรมแผนที่ดิจิตอลเพื่อการพรีเซนต์ด้วย ซึ่ง Shannon Simon ได้กล่าวว่า “อย่าประเมินค่าเพื่อนร่วมงานต่ำเกินไป ควรทำงานร่วมกับคนที่ถนัดในด้านภาพ หรือผู้ที่สนับสนุนงานของคุณ เพื่อร่วมเอาไอเดียมาแบ่งปัน สร้างความสัมพันธ์อันดี และเผยแพร่งานออกไปสู่โลกนี้”


เป็นนักข่าวที่มีความรู้รอบด้าน
เราควรมีความรู้ด้านอื่นๆในการทำข่าว นอกจากถ่ายภาพอย่างเดียว เพื่อนำมาประกอบกันเป็นเรื่องราว Matt Black กล่าวไว้ว่า “การปฏิสัมพันธ์ระหว่างการเขียน , ภาพถ่าย และวิดีโอ ทั้งหมดนี้ช่วยให้เราเข้าใจถึงแก่นความคิดและมันช่วยให้เกิดแนวทางที่หลากหลาย”
“พวกเราไม่ใช่แค่ช่างภาพ เราไม่ใช่ช่างเทคนิคด้านกล้อง แต่เราคือศิลปิน กฏของพวกเราคือบอกเล่าเรื่องราวโดยไม่ใช่แค่เอาภาพมาประกอบอย่างง่ายๆ แต่มันต้องถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วย”
